Home > คอลัมน์ท่านเอกอัครราชทูต > กิจกรรมท่านเอกอัครราชทูต
เอกอัครราชทูตหาน จื้อเฉียงให้สัมภาษณ์กับนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม
2022-11-07 21:10

วันที่ 25 เดือนตุลาคม ปี 2022 ท่านหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำราชอาณาจักรไทยให้การสัมภาษณ์เป็นพิเศษกับคุณสนธิญาณนักข่าวอาวุโสของไทยและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสถานีโทรทัศน์ TOPNEWS ซึ่งมีรายละเอียดการสัมภาษณ์ทางรายการเกี่ยวกับการถกเถียงการเมืองดังต่อไปนี้

1.คุณสนธิญาณ: ในการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งชาติครั้งที่ 19 เลขาธิการใหญ่สี จิ้นผิงได้กล่าวไว้ว่า ประเทศจีนจะมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในการจัดระเบียบโลก เวลาผ่านไปห้าปี ขอเรียนถามว่าผลลัพธ์เป็นอย่างไร ใช่เป็นเพราะเศรษฐกิจและกำลังทหารของประเทศจีนแข็งแกร่งขึ้น กลายเป็นมหาอำนาจใหม่ของโลกจนนำไปสู่ความไม่พึงพอใจของสหรัฐฯ ผู้ซึ่งมีบทบาทเป็นอันดับหนึ่งของโลก

เอกอัครราชทูตหาน: ผมมีความยินดีที่จะตอบคำถามนี้ของท่าน ห้าปีที่ผ่านมา การพัฒนาของประเทศจีนประสบความสำเร็จเป็นประวัติการณ์ ในเวลาเดียวกัน ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของจีนก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง การพัฒนาของจีนไม่สามารถแยกขาดจากโลก การพัฒนาของโลกก็ต้องการให้จีนมีบทบาทส่วนร่วมมากขึ้น ประเทศจีน จำเป็นต้องดำเนินการเชิงรุกมากขึ้นในการพัฒนาทางการทูตในฐานะที่เป็นประเทศใหญ่ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของจีน

ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา สถานการณ์ระหว่างประเทศได้มีการเปลี่ยนแปลงในเชิงลึกและซับซ้อน เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในรอบศตวรรษ โลกได้มาถึงทางแยกใหม่ว่าจะพัฒนาต่อไปอย่างไร แนวโน้มในภาพรวมของสถานการณ์ระหว่างประเทศยังคงเป็นการพัฒนาอย่างสันติ แต่ปัจจัยที่ซับซ้อนและความท้าทายมากมายที่ส่งผลต่อการพัฒนาอย่างสันติได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว สิ่งสำคัญที่เกิดขึ้นในตอนนี้คือ มีแนวคิดที่ไม่ค่อยเหมาะสมกำลังก่อกวนสังคมโลก แนวคิดแบบนี้คือแนวความคิดของสงครามเย็นที่ต้องการสร้างการเผชิญหน้าของต่างค่ายให้เกิดขึ้นบนโลก ต้องการสร้างขอบเขตที่มีกำแพงสูง และสร้างปัญหาทุกรูปแบบในส่วนต่างๆของโลกเพื่อรักษาตำแหน่งความเป็นผู้นำโลกเอาไว้ ซึ่งทำให้เกิดผลกระทบร้ายแรงมากต่อระเบียบโลก และต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ดังนั้น บ่อยครั้งที่พวกเราเห็นสถานการณ์ระหว่างประเทศเกิดความปั่นป่วนวุ่นวาย ไร้ซึ่งสันติภาพ

ปัญหารากแก่นคือ การมองโลก และเข้าใจปัญหาของตัวเองอย่างไร แนวคิดแบบเกมผลรวมเป็นศูนย์นั้นค่อนข้างอันตราย เพราะเป็นการเชื่อว่าโลกจะต้องเป็นความสัมพันธ์แบบคุณชนะ แล้วฉันแพ้ จึงนำไปสู่การใช้นโยบายการแข่งขัน หรือการเผชิญหน้าที่รุนแรง แต่ในความเป็นจริง ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับประเทศ ควรเป็นความสัมพันธ์แบบร่วมมือกันเพื่อได้ผลประโยชน์ทั้งคู่ ด้วยการร่วมมือทำเค้กให้ใหญ่ขึ้น เพื่อที่ทุกประเทศในโลกสามารถแบ่งปันผลประโยชน์จากการพัฒนาอย่างสันติ การเริ่มต้นจากความเข้าใจเช่นนี้ นโยบายต่างประเทศของประเทศหนึ่งๆ จึงควรให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างสันติเป็นอันดับแรก มีบางประเทศที่ทั้งแนวความคิดและนโยบายเป็นไปในทางที่ผิด ก่อให้เกิดปัญหาและความยุ่งยากมากมายต่อประชาคมนานาชาติ และยังมีหลายประเทศที่เกิดความสงสัยและความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับสันติภาพ ความมีเสถียรภาพ และการพัฒนาของโลก

2.คุณสนธิญาณ: เลขาธิการใหญ่สี จิ้นผิงกล่าวในรายงานระหว่างการประชุมสมัชชาใหญ่ครั้งที่ 20 ว่า จีนจะยึดมั่นในนโยบายการทูตสันติโดยอิสระ ไม่แสวงหาความเป็นเจ้า ท่านช่วยอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ไหม

เอกอัครราชทูตหาน: ภายใต้สถานการณ์ระหว่างประเทศในปัจจุบัน หลายประเทศ โดยเฉพาะประเทศกำลังพัฒนาที่มีอยู่เป็นจำนวนมากต่างคาดหวังให้ประเทศจีนมีบทบาทมากขึ้น เพื่อรักษาการพัฒนาอย่างสันติของโลก ประเทศจีนเองก็พยายามแสดงจุดยืนของตน และภูมิปัญญาจีนในโอกาสต่างๆ ท่านประธานาธิบดีสีจิ้นผิงได้เสนอความคิดริเริ่มในการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันสำหรับมนุษยชาติ ความคิดริเริ่มการพัฒนาร่วมของโลก และความปลอดภัยของโลก สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นการแสดงบทบาทความรับผิดชอบในฐานะประเทศที่มีอำนาจทางเศรษฐกิจ เป็นการแสดงออกที่มีพลังในการนำพาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและธรรมาภิบาลของโลกไปในทิศทางที่ถูกต้อง การทูตสันติโดยอิสระเป็นนโยบายพื้นฐานที่ประเทศจีนใช้มาโดยตลอด การประชุมสมัชชาใหญ่ครั้งที่ 20 ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในครั้งนี้ เลขาธิการใหญ่สี จิ้นผิงได้ประกาศนโยบายต่างประเทศของจีนในปัจจุบันอย่างชัดเจน โดยย้ำว่าจีนยึดมั่นการปกป้องสันติภาพโลก ส่งเสริมการพัฒนาร่วมกัน มุ่งมั่นที่จะสร้างชุมชนที่มีอนาคตร่วมกันสำหรับมนุษยชาติ เน้นว่าจีนต้องยึดมั่นในพหุภาคีนิยมอย่างแท้จริง ส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่เป็นประชาธิปไตยอย่างแข็งขัน และส่งเสริมแนวคิดธรรมาภิบาลของโลกด้วยการดำเนินความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ช่วยเหลือ สนับสนุนร่วมกัน และแบ่งผลประโยชน์ร่วมกัน สิ่งเหล่านี้ยังเป็นการแสดงจุดยืนที่แน่วแน่ของจีนเมื่อต้องเผชิญกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ซับซ้อนภายใต้สถานการณ์โลกในปัจจุบัน และเป็นการประกาศอย่างจริงจังในนโยบายต่างประเทศของจีน

ข้อเรียกร้องพื้นฐานของประเทศจีนคือ การเคารพซึ่งกันและกัน การอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และความร่วมมือแบบได้ประโยชน์ทุกฝ่าย ต้องเคารพอธิปไตยทางอาณาเขตของทุกประเทศ และต้องเคารพบรรทัดฐานพื้นฐานของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่จะไม่แทรกแซงกิจการภายในของกันและกัน ดังนั้น จีนจะไม่ล่าอาณาเขต หรือครองความเป็นเจ้าอย่างแน่นอน


Suggest To A Friend:   
Print