วันที่ 15 ถึง 18 มีนาคม เอกอัครราชทูตหาน จื้อเฉียงได้เดินทางเยือนจังหวัดสงขลาและจังหวัดภูเก็ต และได้แลกเปลี่ยนเชิงลึกกับเจ้าหน้าที่รัฐของทั้งสองจังหวัดเกี่ยวกับความสัมพันธ์จีน-ไทยและความร่วมมือทวิภาคีในด้านเศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยว การศึกษา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นต้น  ท่านได้เข้าเยี่ยมชมโรงเรียนจีนและเข้าพบปะเยี่ยมเยือนกับชาวจีนโพ้นทะเล ตรวจเยี่ยมสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการท่องเที่ยว ตรวจสอบสถานการณ์ด้านความปลอดภัยในการท่องเที่ยวและความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยวจีน นอกจากนี้ ท่านยังได้พบปะพูดคุยกับอาจารย์และนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดยได้แนะนำเกี่ยวกับการพัฒนาของจีนและความสัมพันธ์จีน-ไทย ผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวประกอบด้วย นางอู๋ ตงเหมย กงสุลใหญ่จีนประจำจังหวัดสงขลา ท่านหลี่ เฉิงหลง ผู้อำนวยการสำนักงานกงสุลจีนประจำภูเก็ต อัครราชทูตที่ปรึกษาพาน จิ่น ที่ปรึกษาฉาง อวี่เหมิง และที่ปรึกษาฟ่าน เสวี่ยเหว่ย เป็นต้น

เอกอัครราชทูตหาน จื้อเฉียงได้แนะนำอย่างครบถ้วนเกี่ยวกับสถานการณ์การพัฒนาของจีนและความสัมพันธ์จีน-ไทยให้กับเจ้าหน้าที่รัฐ อาจารย์ นักศึกษา และชาวจีนโพ้นทะเล ฯลฯ ในสองจังหวัด ท่านกล่าวว่า ภายใต้การนำที่เข้มแข็งของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนโดยมี       สี จิ้นผิง เป็นแกนหลักนั้น ประชาชนจีนกำลังก้าวไปข้างหน้าอย่างฮึกเหิมเพื่อสร้างประเทศสังคมนิยมสมัยใหม่ที่แข็งแกร่งในทุกมิติ จีนจะอาศัยความทันสมัยแบบใหม่ส่งเสริมให้เกิดการฟื้นฟูความยิ่งใหญ่ของประเทศ จีนจะยืนหยัดในเส้นทางแห่งสันติภาพ และจะขยายการเปิดกว้างอย่างต่อเนื่อง มุ่งมั่นที่จะบรรลุการพัฒนาและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกับทุกประเทศในโลกโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับประเทศรอบข้าง เอกอัครราชทูตหาน จื้อเฉียงชี้ว่า ระหว่างการเยือนไทยครั้งประวัติศาสตร์ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงเมื่อปีที่แล้ว ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะสร้างประชาคมที่มีชะตาร่วมจีน-ไทยที่มีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนยิ่งขึ้น เริ่มต้นยุคใหม่ของความสัมพันธ์ทวิภาคี สืบเนื่องจากการฟื้นตัวของสภาพเศรษฐกิจและสังคมอย่างสมบูรณ์หลังเกิดโรคระบาด การแลกเปลี่ยนฉันมิตรและความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกันระหว่างจีน-ไทยจะก้าวสู่จุดสูงสุดครั้งใหม่ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนทั้งสองประเทศมากขึ้น

 เอกอัครราชทูตหาน จื้อเฉียงกล่าวชื่นชมการสร้างชุมชนชาวจีนโพ้นทะเลในพื้นที่ภาคใต้ของไทย โดยกล่าวยกย่องชาวจีนโพ้นทะเลที่ได้มีส่วนสำคัญในการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของไทยและความร่วมมือที่เป็นมิตรระหว่างจีน-ไทย ท่านกล่าวสนับสนุนให้ทุกคนเป็นสะพานเชื่อมสายสัมพันธ์จีน-ไทยในยุคใหม่ต่อไป ท่านยังได้ร่วมยืนยันถึงความสำเร็จอันโดดเด่นของโรงเรียนจีนและสนับสนุนให้นักเรียนเรียนภาษาจีนให้ดี สืบทอดวัฒนธรรมจีน และส่งเสริมมิตรภาพจีน-ไทยให้ดียิ่งขึ้น

เอกอัครราชทูตหาน จื้อเฉียงได้เยี่ยมชมสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการท่องเที่ยวในสองจังหวัดและหารือกับรัฐบาลท้องถิ่นและผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวเกี่ยวกับประเด็นด้านความปลอดภัยในการท่องเที่ยว พร้อมขอบคุณฝ่ายไทยสำหรับความพยายามในการเสริมสร้างการจัดการความปลอดภัยในการท่องเที่ยว ท่านกล่าวว่าภาคใต้ของไทยเป็นจุดหมายปลายทางหลักของชาวจีนที่มาเที่ยวเมืองไทย สืบเนื่องจากการควบคุมโรคระบาดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เชื่อว่าจะมีชาวจีนเดินทางมาเยือนภาคใต้ของไทยในระยะต่อไปนี้เพิ่มมากขึ้น หวังว่าฝ่ายไทยจะเสริมการกำกับดูแลการท่องเที่ยวให้ดียิ่งๆขึ้น รักษาระเบียบด้านการท่องเที่ยว เพื่อรับรองความปลอดภัยและสิทธิประโยชน์อันชอบธรรมของนักท่องเที่ยวจีน

นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายเรวัต อารีรอบ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต และผู้บริหารจากหน่วยงานรัฐต่างๆในสองจังหวัดได้ให้การต้อนรับการมาเยือนของเอกอัครราชทูตหาน จื้อเฉียงอย่างอบอุ่น และได้กล่าวชื่นชมความสำเร็จในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของจีน โดยกล่าวว่า ทางท้องถิ่นมุ่งมั่นที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ฉันมิตรกับจีน และยินดีที่จะกระชับความร่วมมือทวิภาคีในด้านเศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยว การศึกษา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ฯลฯ โดยย้ำว่าทุกภาคส่วนในภาคใต้ของไทยกำลังรอคอยการกลับมาอีกครั้งของนักท่องเที่ยวจีน เจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องของฝ่ายไทยยังได้แนะนำทรัพยากรการท่องเที่ยวในท้องถิ่นและบริการการท่องเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยวจีน โดยกล่าวว่าจะให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในการท่องเที่ยวมากที่สุดต่อไป และมุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์การเดินทางที่ปลอดภัยและสะดวกสบายให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีน ชาวจีนโพ้นทะเลในภาคใต้ของไทยรู้สึกยินดีกับการมาเยือนของเอกอัครราชทูตหาน จื้อเฉียง โดยกล่าวว่า ในฐานะลูกหลานชาวจีน พวกเขาภูมิใจในความสำเร็จด้านการพัฒนาที่โดดเด่นของประเทศจีน และจะสืบสานประเพณีความรักชาติและความรักบ้านเกิดต่อไป ตลอดจนจะสร้างคุณูปการต่อการพัฒนาความเจริญรุ่งเรืองของทั้งสองประเทศและส่งเสริมมิตรภาพจีน-ไทยต่อไป