วันที่ 24 เมษายน 2566 เอกอัครราชทูตหาน จื้อเฉียงได้เข้าร่วมงานสัมมนา “จีนร่วมสมัยกับโลก” การแลกเปลี่ยนระหว่างคนรุ่นใหม่ไทย-จีนและกล่าวปาฐกถาพิเศษ นายพินิจ จารุสมบัติ อดีตรองนายกรัฐมนตรีไทยและประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีนและส่งเสริมความสัมพันธ์ นายเกา อั้นหมิง รองประธานและบรรณาธิการใหญ่สำนักสารนิเทศต่างประเทศแห่งประเทศจีน พล.อ.สุรสิทธิ์ ถนัดทาง  ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยยุทธศาสตร์ไทย-จีน รศ.ดร.สุมาลี ไชยศุภรากุล อธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม ได้เข้าร่วมงานสัมมนาและกล่าวสุนทรพจน์ แขกผู้มีเกียรติและผู้แทนคนรุ่นใหม่มาจากมหาวิทยาลัย สถาบัน สื่อมวลชนและสมาคมจำนวน 80 กว่าคนได้เข้าร่วมงานสัมมนาด้วย

นายหานกล่าวว่า ข้อริเริ่ม "สายแถบและเส้นทาง" จะเป็นประโยชน์ต่อคนในปัจจุบันและรุ่นหลัง ประเทศไทยตั้งอยู่ในชัยภูมิที่สำคัญของ “สายแถบและเส้นทาง” และเป็นผู้มีส่วนร่วมและผู้รับประโยชน์ที่สำคัญ ในโอกาสครบรอบ 10 ปีของข้อริเริ่ม "สายแถบและเส้นทาง" เป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับคนหนุ่มสาวจากจีนและไทยที่จะรวมตัวกันและพูดคุยเกี่ยวกับ "สายแถบและเส้นทาง" กว่า 10 ปีที่ผ่านมา จีนและพันธมิตรระหว่างประเทศได้ยึดมั่นในหลักการร่วมหารือ ร่วมสร้าง และร่วมรับประโยชน์ และยึดมั่นในมาตรฐานระดับสูง ความยั่งยืน และเป็นประโยชน์ต่อการดำรงชีวิตของประชาชน ซึ่งได้เปลี่ยน "สายแถบและเส้นทาง" จากพิมพ์เขียวให้เป็นความจริง และนำไปสู่ผลลัพธ์ของการพัฒนาประเทศต่าง ๆ และสร้างประโยชน์แก่การดำรงชีวิตของประชาชนอย่างแท้จริง จนถึงปัจจุบัน ข้อคิดริเริ่ม "สายแถบและเส้นทาง" ได้ดึงดูด 151 ประเทศและ 32 องค์กรระหว่างประเทศเข้าร่วมเป็นภาคีความร่วมมือ ขับเคลื่อนการลงทุนเกือบหนึ่งล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ก่อให้เกิดโครงการความร่วมมือมากกว่า 3,000 โครงการ สร้างงาน 420,000 ตำแหน่งสำหรับประเทศต่างๆ ตลอดเส้นทาง และช่วยให้ผู้คนเกือบ 40 ล้านคนพ้นจากความยากจน

นายหานกล่าวว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา การร่วมสร้าง "สายแถบและเส้นทาง" ระหว่างจีนและไทยได้ประสบผลสำเร็จมากมาย ความร่วมมือระดับนโยบายเพื่อร่วมสร้าง “สายแถบและเส้นทาง” ช่วยชี้ชัดถึงทิศทางการพัฒนาในอนาคต การเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานช่วยอัดฉีดแรงผลักดันที่แข็งแกร่งสำหรับการร่วมสร้าง “สายแถบและเส้นทาง” การค้าไร้ข้อจำกัดจะช่วยให้การร่วมสร้าง "สายแถบและเส้นทาง" เกิดประโยชน์ต่อประชาชนของทั้งสองประเทศ การไหลเวียนของเงินทุนเป็นแรงสนับสนุนที่แข็งแกร่งสำหรับการร่วมสร้าง “สายแถบและเส้นทาง” ความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนได้วางรากฐานสำคัญสำหรับการร่วมสร้าง "สายแถบและเส้นทาง" หากมองไปในอนาคต  จะเห็นภาพของ "สายแถบและเส้นทาง" ที่มีความร่วมมือในเชิงลึกและเป็นรูปธรรม นำมาซึ่งโอกาสใหม่ ๆ ในความร่วมมือระหว่างสองประเทศ สร้างประโยชน์ใหม่ ๆ สำหรับประชาชนของทั้งสองประเทศ และจะส่งเสริมจีน-ไทยให้เป็นชุมชนร่วมอนาคตที่มีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนมากยิ่งขึ้น ทั้งสองฝ่ายต้องมีการเชื่อมโยงกลยุทธ์การพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น ร่วมกันสร้างจุดเติบโตใหม่ ต้องขจัดการแทรกแซงจากภายนอกอย่างเด็ดเดี่ยว

นายหานกล่าวว่า คนรุ่นใหม่เป็นกลุ่มคนที่มีพลวัตและมีความคิดสร้างสรรค์มากที่สุด และเป็นความหวังสำหรับการพัฒนาในอนาคตของทุกประเทศ ผลสำเร็จจากการร่วมสร้าง "สายแถบและเส้นทาง" ระหว่างจีนและไทยนั้นแยกไม่ออกจากการมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันและการสนับสนุนที่สำคัญของคนรุ่นใหม่ของทั้งสองฝ่าย คนรุ่นใหม่ของทั้งสองประเทศมีภาระหน้าที่ในการจะส่งเสริมอนาคตที่มั่นคงและยั่งยืนของ "สายแถบและเส้นทาง" อย่างไม่อาจทดแทนได้ หวังว่าคนหนุ่มสาวของทั้งสองประเทศจะยังคงเติมความมีชีวิตชีวาให้กับมิตรภาพที่มีมายาวนานระหว่างจีนและไทย  เสริมเติมภูมิปัญญาของเยาวชนในการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม เสริมสร้างความร่วมมือด้านนวัตกรรม และแบกรับความรับผิดชอบทางสังคมอย่างกล้าหาญ และสร้างผลงานของเยาวชนในชุมชนแห่งโชคชะตาร่วมจีน-ไทยร่วมกัน

นายเกา อั้นหมิงกล่าวว่า คนรุ่นใหม่เป็นอนาคตและความหวังของความสัมพันธ์จีน-ไทย ทั้งสองประเทศต้องส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมของคนรุ่นใหม่ สร้างเวทีที่สนทนาและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ส่งเสริมความร่วมมือด้านนวัตกรรมและวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของคนรุ่นใหม่ ผลักดันความเชื่อมโยงกันอย่างลึกซึ้งระหว่างยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0 กับ ข้อริเริ่ม “สายแถบและเส้นทาง” พยายามสร้างกลไลความร่วมมือคนรุ่นใหม่จีน-ไทยที่เอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกันและมีนวัตกรรมและชัยชนะร่วมกัน เสริมสร้างพื้นฐานความสัมพันธ์แบบหุ้นส่วนความร่วมมือทางยุทธศาสตร์อย่างรอบด้านระหว่างจีน-ไทย

นายพินิจ จารุสมบัติ อดีตรองนายกรัฐมนตรีไทยและประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีนและส่งเสริมความสัมพันธ์และแขกผู้มีเกียรติได้กล่าวว่า ไทยกับจีนได้มีความสัมพันธ์อันเป็นเวลายาวนาน ความร่วมมือระหว่างสองประเทศได้ประสบผลสำเร็จเป็นอย่างมาก คนรุ่นใหม่เป็นอนาคตและความหวังของความสัมพันธ์ไทย-จีน คนรุ่นใหม่ไทยควรเรียนรู้ประเทศจีนและสถานการณ์ของโลกมากขึ้น แล้วก็อยากเชิญคนรุ่นใหม่จีนมาประเทศไทย เพื่อให้คนรุ่นใหม่ของทั้งสองประเทศได้เติบโตเป็นสะพานของความสัมพันธ์ไทย-จีนในยุคใหม่

ในงานสัมมนานี้ก็ได้จัดฟอรัม “จีนร่วมสมัยกับโลกในยุคใหม่” พิธีมอบรางวัลการแข่งขันเรียงความ“แพนด้าสันถวไมตรี” และงานแถลงผลการวิจัยในการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างจีน-ไทย ซึ่งจัดโดยสถานบันวิจัยจีนร่วมสมัยและโลก ศูนย์วิจัยยุทธศาสตร์ไทย-จีน และศูนย์วิจัยหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางไทย-จีน ผู้แทนคนรุ่นใหม่ของวงการต่าง ๆ ของไทยได้เข้าร่วมงานร่วมกัน ปรึกษาหารือและมุ่งสู่อนาคตการแลกเปลี่ยนและร่วมมือของคนรุ่นใหม่ภายใต้ข้อริเริ่ม “สายแถบและเส้นทาง”