Home > ข่าวสารประเทศจีน
หวัง อี้จัดการประชุมหารือประจำปีกับนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย
2024-01-30 18:36

เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2567 ตามเวลาท้องถิ่น นายหวัง อี้ สมาชิกคณะกรรมการประจำกรมการเมือง คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีนได้จัดการประชุมปรึกษาหารือกับนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย ณ กรุงเทพมหานคร

หวัง อี้ กล่าวว่า “จีนไทยมิใช่อื่นไกล พี่น้องกัน” เป็นเพื่อนบ้านที่ดี เป็นเพื่อนที่ดี และเป็นหุ้นส่วนที่ดีต่อกัน ปีนี้เป็นวาระครบรอบ 75 ปีของการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นปีเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของไทย ทรงเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ และปีหน้าจะครบรอบ 50 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีน-ไทย ทั้งสองประเทศกำลังจะได้พบกับโอกาสใหม่ๆ และควรมีการดำเนินการด้านใหม่ๆ เกี่ยวกับการพัฒนาความทันสมัยและการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน จีนยินดีที่จะมุ่งสู่ทิศทางการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน ที่มั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืนมากขึ้นระหว่างจีน-ไทย เสริมสร้างความความร่วมมือเชิงปฏิบัติด้านต่างๆ ที่เข้มข้น เพื่อเพิ่มเนื้อหาใหม่ๆ สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศ

หวัง อี้กล่าวว่า โลกปัจจุบันเต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย และเกิดประเด็นร้อนในหลายจุดติดต่อกัน ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้เน้นย้ำในที่ประชุมของคณะกรรมการกลางด้านกิจการต่างประเทศจีนว่า โลกได้เข้าสู่ยุคแห่งความปั่นป่วนและการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ แต่ทิศทางทั่วไปด้านการพัฒนาความก้าวหน้าของมนุษย์และแนวโน้มทั่วไปของประชาคมระหว่างประเทศที่มีอนาคตร่วมกันจะไม่เปลี่ยนแปลง การส่งเสริมการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของมนุษยชาติเป็นเป้าหมายสูงสุดด้านการทูตของประเทศขนาดใหญ่ที่มีลักษณะเฉพาะของจีนยุคใหม่ จากข้อริเริ่ม “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” และข้อริเริ่มว่าด้วยการพัฒนาระดับโลก 3 ประการ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงยังได้เสนอระบบโลกหลายขั้วที่เท่าเทียมและเป็นระเบียบ และโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจที่เอื้อต่อทุกฝ่ายโดยไม่แบ่งแยก ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการร่วมกันของประเทศส่วนใหญ่ และสะท้อนถึงบทบาทและความรับผิดชอบของประเทศจีน จีนยินดีทำงานร่วมกับไทยและประเทศก้าวหน้าใหม่ๆ เพื่อเสริมสร้างความสามัคคีและความร่วมมือเพื่อรองรับการพัฒนาของตนเอง และส่งเสริมเสถียรภาพและความแน่นอนมากขึ้นในโลกที่มีแต่ความสับสนวุ่นวาย

จีนและไทยควรเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนระดับสูงและร่วมกันวางแผนกิจกรรมเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ทั้งสองฝ่ายควรส่งเสริมการร่วมสร้าง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ที่มีคุณภาพสูง เร่งสร้างทางรถไฟจีน-ไทย และผลักดันสานต่อแนวคิดการพัฒนาการเชื่อมต่อจีน-ลาว-ไทยให้เกิดเป็นรูปธรรม มุ่งเน้นความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน ประสานการส่งเสริมความร่วมมือในด้านเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน ใช้มาตรการสำคัญด้านการยกเว้นวีซ่าระหว่างกันให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการไปมาหาสู่ระหว่างประชากร เสริมสร้างความร่วมมือด้านการบังคับใช้กฎหมายและความมั่นคง ดำเนินมาตรการเชิงปฏิบัติเพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อนักท่องเที่ยวของกันและกัน ร่วมกันปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ เช่น การพนันออนไลน์ การฉ้อโกงทางอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น และปกป้องความมั่นคงและเสถียรภาพของประเทศในภูมิภาค

นายปานปรีย์ กล่าวว่า รู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้จัดการประชุมหารือประจำปีครั้งที่หนึ่งระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศของไทยและจีน ซึ่งเป็นผลลัพธ์สำคัญที่เกิดจากการเยือนจีนเมื่อปีที่แล้วของนายกเศรษฐา ทวีสิน ประเทศไทยให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อความเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือทางยุทธศาสตร์อย่างรอบด้านระหว่างไทย-จีน และให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเสริมสร้างความร่วมมือฉันมิตรกับจีน ซึ่งไม่เพียงแต่เพื่อผลประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศเท่านั้น แต่ยังมีความสำคัญต่อสันติภาพและเสถียรภาพของโลกด้วย ประเทศไทยยึดมั่นในหลักการจีนเดียวและไม่มีการแลกเปลี่ยนใดๆ อย่างเป็นทางการกับไต้หวัน ในวาระครบรอบ 50 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตถือเป็นก้าวสำคัญในความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศ กระบวนการพัฒนาความสัมพันธ์ไทย-จีนแสดงให้เห็นว่าทั้งสองประเทศมีความไว้วางใจซึ่งกันและกันในระดับสูง ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาตลอด จนเกิดความผูกพันที่ลึกซึ้ง ไทยยินดีทำงานร่วมกับจีนเพื่อวางแผนกิจกรรมการเฉลิมฉลองครั้งใหญ่ กระชับการแลกเปลี่ยนด้านวัฒนธรรม และเสริมสร้างความร่วมมือด้านใหม่ๆ เช่น การพัฒนาสีเขียว เศรษฐกิจดิจิทัล เป็นต้น ตลอดจนส่งเสริมการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีให้มากขึ้น ไทยขอชื่นชมจีนในฐานะประเทศขนาดใหญ่ที่มีความรับผิดชอบ อีกทั้งมีบทบาทสำคัญต่อการรักษาเสถียรภาพและการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของโลก และแสดงความยินดีกับจีนที่ประสบความสำเร็จในการจัดการประชุมคณะกรรมการกลางด้านกิจการต่างประเทศ แนวคิดการทูตของสี จิ้นผิงมีความทันยุคสมัยและสอดคล้องกับแนวโน้มการพัฒนาของโลก ประเทศไทยเห็นด้วยที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงเสนอระบบโลกหลายขั้วที่เท่าเทียมและเป็นระเบียบและโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจที่เอื้อต่อทุกฝ่ายโดยไม่แบ่งแยก อีกทั้งยินดีสนับสนุนจีนในบทบาทผู้ประสานงานในประเด็นระหว่างประเทศและภูมิภาค ร่วมกันสร้าง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ปกป้องแนวคิดพหุภาคี ต่อต้านการแยกตัวและการปิดกั้น ตลอดจนรักษาเสถียรภาพและความคล่องตัวของห่วงโซ่อุปทานในอุตสาหกรรมการผลิต

หลังจากการปรึกษาหารือ รัฐมนตรีต่างประเทศของทั้งสองประเทศได้ลงนามในข้อตกลงเกี่ยวกับการยกเว้นวีซ่าร่วมกันสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดา


Suggest To A Friend:   
Print