เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2567 ตามเวลาท้องถิ่น นายหวัง อี้ สมาชิกกรมการเมืองของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนและรัฐมนตรีต่างประเทศ ได้เข้าร่วมการประชุมความมั่นคง ณ เมืองมิวนิก และกล่าวปาฐกถาพิเศษใน "เซสชั่นประเทศจีน" และตอบคำถามสด

เมื่อถูกถามเกี่ยวกับความคิดเห็นของจีนเกี่ยวกับ "บันทึกข้อตกลงบูดาเปสต์" และจุดยืนของจีนต่อความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน  นายหวัง อี้ กล่าวว่าจีนไม่ได้เป็นผู้ลงนามใน "บันทึกข้อตกลงบูดาเปสต์" ในปีนั้น แต่ยอมรับบันทึกดังกล่าวผ่านแถลงการณ์ของรัฐบาล นโยบายนิวเคลียร์ของจีนมีความชัดเจนและก้าวหน้าที่สุดในบรรดาประเทศที่มีอาวุธนิวเคลียร์ รวมถึงการไม่ใช่ประเทศริเริ่มที่ใช้อาวุธนิวเคลียร์และการไม่ใช้อาวุธนิวเคลียร์ต่อประเทศที่ไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งรวมถึงยูเครนด้วย หลังวิกฤติยูเครน ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวเพิ่มเติมว่าอาวุธนิวเคลียร์ไม่ควรใช้และสงครามนิวเคลียร์ไม่ควรเกิด และทุกฝ่ายควรทำงานร่วมกันเพื่อปกป้องความปลอดภัยของวัสดุและสิ่งอำนวยความสะดวกนิวเคลียร์ จีนได้ให้คำมั่นสัญญาและปฏิบัติตามพันธกรณีระหว่างประเทศแล้ว

นายหวัง อี้ เน้นย้ำว่าจีนไม่ใช่ผู้สร้างวิกฤติการณ์ยูเครน และไม่ใช่คู่กรณีด้วย แต่เราไม่ได้นิ่งดูดาย และเราไม่ได้แสวงหาผลประโยชน์จากวิกฤติ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ชี้ให้เห็นว่าควรเคารพอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของทุกประเทศ ควรปฏิบัติตามวัตถุประสงค์และหลักการของกฎบัตรสหประชาชาติ ควรคำนึงถึงข้อกังวลด้านความปลอดภัยที่สมเหตุสมผลของทุกประเทศอย่างจริงจัง ความพยายามทั้งหมดที่เอื้อต่อสันติภาพ ควรได้รับการสนับสนุน  และนี่คือจุดยืนและหลักการปฏิบัติขั้นพื้นฐานของจีนต่อประเด็นยูเครน ด้วยเหตุนี้ จีนจึงยืนหยัดในการส่งเสริมการเจรจาสันติภาพและมีบทบาทเชิงบวกในการฟื้นฟูสันติภาพ ตราบใดที่ยังมีความหวังอันริบหรี่เพื่อสันติภาพ เราจะไม่ย่อท้อ ตราบใดที่การเจรจาสามารถเริ่มต้นใหม่ได้โดยเร็ววัน ความสูญเสียของทุกฝ่ายจะลดลง